การทดสอบ-การปฎิบัติในชีวิตจริงของผู้ใหญ่วัยสูงอายุนั้นชี้ว่า ไม่มีความสอดคล้องกันเลยแม้แต่น้อย การทดสอบ-การปฎิบัติในชีวิตจริงของผู้ใหญ่วัยสูงอายุนั้นชี้ว่า ไม่มีความสอดคล้องกันเลยแม้แต่น้อย
“ทีมนักวิจัยของผมกับตัวผมเองได้อธิบายถึงความแตกต่างที่พวกเราเห็นถึงสมรรถภาพทางความคิดในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันออกไป” กล่าวโดย Dr.Tom Hess ศาสตราจารย์ทางด้านจิตวิทยาที่รัฐนอร์ทแคลิฟอเนียและเป็นผู้เขียนหลักการอธิบายทางด้านทฤษฎี “ตัวอย่างเช่นจากการทดสอบนั้น เกือบทุก ๆ คนแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไม่ยอมรับการทดสอบทางด้านสติปัญญาตามช่วงอายุคน ดังนั้นคุณคาดหวังได้เลยว่า ผู้ใหญ่สูงอายุจะต้องเจอกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ย่ำแย่ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน แต่คุณไม่มีทางรู้ได้ว่าเพราะอะไร? จึงมีความจำเป็นที่ต้องสร้างหลักทฤษฎีในการแก้ปัญหาเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นมา”
Hess ได้พัฒนาทฤษฎีนี้ขึ้นมา โดยตั้งชื่อว่าเป็น “ทฤษฎีการเลือกที่จะผูกมัด” เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยอาศัยการวิจัยทางด้านจิตวิทยาตามช่วงอายุคน
ประเด็นก็คือว่า ศักยภาพทางความคิดและการเรียนรู้นั้น ทั้งสองอย่างนี้จะต้องมีกระบวนการที่สอดคล้องกัน ซึ่งความสามารถของแต่ละคนในการโฟกัสการสอบถามกระบวนการภาวะจิตใจนั้น ต้องมาสับเปลี่ยนการสอบถามไม่ให้เกิดความไขว้เขวและต้องส่งผลดีต่อกระบวนการทางด้านความจำ อย่างไรก็ตามศักยภาพทางด้านความคิดโดยปกติอธิบายได้ว่า ผู้คนส่วนใหญ่มีเงื่อนไขปัจจัยในการทดสอบอย่างไร เนื่องจากการรับรู้ปกติแล้วอธิบายได้ถึงความสามารถของแต่ละคนในการรับมือกับสภาวะทางด้านจิตใจที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
“กระบวนการทำงานของร่างกายในหลักจิตวิทยานั้น จากการวิจัยแสดงให้เห็นถึงกระบวนการซับซ้อนทางภาวะจิตใจที่ประเมินได้ยากสำหรับผู้ใหญ่วัยสูงอายุ ซึ่ง Hess กล่าวว่า “สิ่งสำคัญก็คือ ผู้ใหญ่วัยสูงอายุคิดมากในเรื่องราวต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้วผู้ใหญ่วัยสูงอายุมีการฟื้นฟูตัวเองจากภาวะเหนื่อยล้านานมาก ผลที่ออกมานั้น ผมได้โต้แย้งว่า ผู้ใหญ่วัยสูงอายุมีหลักคิดในการตัดสินใจเกี่ยวกับผลกระทบที่ได้ทำเอาไว้ในก่อนหน้านี้อย่างไรบ้าง”
นี่เป็นการเลือกที่จะผูกมัด แนวคิดที่อยู่เบื้องหลังในทฤษฎีก็คือ ผู้ใหญ่วัยสูงอายุมีความเป็นไปได้ที่จะทำแบบสอบถามทางภาวะจิตใจอย่างสมัครใจหากพวกเขาสามารถวิเคราะห์แบบสอบถามหรือประเมินบุคลิกส่วนตัว ก็ช่วยอธิบายได้ถึงความไม่ลงรอยระหว่างศักยภาพทางความคิดจากการทดลองในแต่ละสภาพแวดล้อมและการรับรู้ตามสภาพโลกแห่งความเป็นจริง
“สิ่งแรกที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อทีมนักวิจัยของผมได้เห็นนั้นดูเหมือนว่า ศักยภาพในการคิดจะมีอิทธิพลต่อแบบสอบถามที่พวกเราได้ทำการทดลองเอาไว้” Hess กล่าว “การสอบถามนั้นผู้คนเห็นถึงความสำคัญในการเก็บรวบรวมข้อมูลศักยภาพในการคิดมากกว่าทำแบบสอบถามคร่าว ๆ
ต่อไป Hess หวังที่จะทำการสำรวจประเด็นที่นอกเหนือไปจากนั้น ซึ่งทางเลือกระยะสั้นสะท้อนให้เห็นในชีวิตประจำวันของผู้ใหญ่วัยสูงอายุและกิจกรรมต่าง ๆ ที่พวกเขาเลือกที่จะทำ
“นี่ไม่ได้ช่วยให้พวกเราเข้าใจในส่วนของความคิดและช่วงอายุเท่านั้น แต่อาจช่วยให้นักวิจัยหลายคนระบุได้ถึงความเป็นไปได้ที่มีกระบวนการเข้ามาแทรกซ้อนที่ทำให้กระบวนการรับรู้ด้อยประสิทธิภาพลง” Hess กล่าว
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com