การวางโครงสร้างชนชั้นกลางใหม่เป็นกุญแจที่นำไปสู่การปกป้องระบอบประชาธิปไตย

“ความกลัวของชนชั้นกลางถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญของพวกเรานั้นไม่ได้มีการออกแบบให้ความสำคัญกับความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ” กล่าวโดย Sitaraman

ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องใหม่ Sitaraman กล่าว

“ในช่วงยุคโบราณบางช่วงนั้น ทั้งนักรัฐบุรุษกับนักปรัชญาต่างก็เข้าใจถึงปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจอย่างรากลึก” เขากล่าว “พวกเขาต่างวิตกกังวลว่า คนรวยจะกดขี่คนจน หรือคนจนมองหาโอกาสลักทรัพย์คนรวย และผลที่ตามมานี้นำไปสู่ความรุนแรง ความไม่เสถียรภาพหรือแม้แต่เกิดการปฏิวัติขึ้นมา” โดย Sitaraman กล่าวว่า รัฐบาลต่างมีวิธีการต่างๆเพื่อทำให้ประเทศมีเสถียรภาพอย่างเช่นการให้ตัวแทนรัฐบาลทำหน้าที่เป็นตัวแทนชนชั้นเศรษฐกิจนั้นๆ

ในประเทศอเมริกานั้น Sitaraman ได้อธิบายว่า ไม่ได้มีสัญญาณเรื่องนี้มากนัก เนื่องจากยุคที่ก่อตั้งประเทศขึ้นมา อเมริกามีความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ไม่มีระบอบศักดินา ไม่มีการจัดลำดับชนชั้น และมีพื้นที่ประเทศกว้างขวาง โดยผู้ก่อตั้งได้ร่างธรรมนูญเริ่มแรกโดยเน้นเรื่องความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ Sitaraman ได้อธิบายว่า ปัญหาในทุกวันนี้ก็คือ มีการเติบโตมากขึ้นระหว่างคนรวยกับคนอื่นๆ

หากว่าประเทศอเมริกายังคงเป็นระบอบสาธารณรัฐต่อไป Sitaraman ได้อธิบายว่า จึงมีความจำเป็นที่จะต้องทำการฟื้นฟูชนชั้นกลางใหม่ โดยต้องยกระดับคนที่มีอายุน้อยเข้ามามีบทบาททางสังคม ทำการลงทุนทางด้านการศึกษามากขึ้น อำนวยความสะดวกในเรื่องการลงคะแนนเสียงและรณรงค์ปฏิรูปทางการเงิน เขากล่าว

หากว่ามีประเด็นอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ชนชั้นกลางต้องเจอกับความหวาดกลัวและ Sitaraman เชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตยในประเทศอเมริกาจะหายไป

“สุดท้ายคุณต้องเจอกับการปกครองแบบคณาธิปไตยหรือไม่ก็เจอกับการปฏิวัติหรือเจอฝูงม็อบเข้ามกดดัน และทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้งประเทศอยากให้เกิดเมื่อพวกเขาพยายามสร้างผู้แทนราษฎรในระบอบประชาธิปไตยของประเทศอเมริกาขึ้นมา” เขากล่าว

ผู้แปล : Mr.lawrence10

ที่มา : sciencedaily.com