การเปลี่ยนแปลงของอากาศมีผลต่อการใช้จ่ายของคนที่มีรายได้น้อย การเปลี่ยนแปลงของอากาศมีผลต่อการใช้จ่ายของคนที่มีรายได้น้อย
สภาพอากาศที่เปลี่ยนไปมีหลายรูปแบบด้วยกันเช่นน้ำท่วม ภัยแหล้งและพายุ “เหตุการณ์พวกนี้มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง เช่นกันมีผลทำให้เกิดการย้ายถิ่นฐานมากขึ้น” กล่าวโดย Jochem Marotzke โดยสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้น ประชากรที่มีรายได้น้อยต่างได้รับผลกระทบเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นความท้าทายระดับโลก นี่ถือเป็นเหตุผลที่ทำไมการป้องกันสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปถึงเป็นเรื่องยาก
จากการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการป้องกันสภาพอากาศกับการย้ายถิ่นฐานและความยากจนนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้ให้ตัวแทนนักเรียนกว่า 140 คนมาเข้าร่วมเล่นเกมสภาพอากาศ โดยผู้เล่นเล่นบทเป็นผู้อาศัยทั้งประเทศร่ำรวยหรือประเทศยากจนด้วยเงินต้นที่เท่ากัน โดยตัวแทนที่อยู่ในประเทศร่ำรวยได้รับเงิน 40 ยูโร โดยที่ประเทศยากจนได้รับเงิน 20 ยูโร
ผู้เข้าร่วมสามารถนำเงินลงทุนส่วนนี้ได้และสร้างผลตอบแทนท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้ายจากเกมจำลอง ตัวอย่างเช่นในกรณีนี้เมื่ออากาศเริ่มร้อนเกินไป ผู้เข้าร่วมสามารถที่จะรักษาเงินทุนตามเป้าหมายในส่วนของการปกป้องการเงินในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้าย โดยที่ผู้เข้าร่วมจะชนะหลังจากที่เล่นผ่าน 20 รอบแล้ว
การลงทุนเพื่อปกป้องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
ผู้เข้าร่วมแต่ละคนได้ใช้เงินจำนวน 2 ถึง 4 ยูโรต่อรอบสำหรับสิ่งแวดล้อมหรือเก็บออมไว้ เป้าหมายจะบรรลุผลหากแต่ละคนได้ทำการลงทุนโดยเฉลี่ย 2 ยูโร โดยระบบจะมีการให้ผลตอบแทนสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้จ่ายใด ๆ กับการป้องกันสภาพอากาศ แต่คนอื่นได้รับประโยชน์จากการลงเงินป้องกันสภาพอากาศแทน
ในช่วงเริ่มแรกผู้เล่นประเทศมั่งคั่งบรรลุผลจากการเก็บเกี่ยวพืชผลจากประเทศยากจนต่อรอบ โดยในแต่ละรอบนั้นคนยากจนพยายามที่จะย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศร่ำรวย อย่างน้อยมีผู้เล่นมั่งคั่ง 4 คนที่พยายามหาทางบล็อกการย้ายถิ่นฐาน เช่นกันผู้ได้ประโยชน์ก็พยายามที่จะใช้ประโยชน์จากคนอื่นด้วย
แต่บ่อยครั้งเรื่องนี้ทำให้เกิดการบล็อกการย้ายถิ่นฐานในช่วงต่อมา โดยผู้ย้ายแต่ละคนนั้นทำให้การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในประเทศมั่งคั่งน้อยลงและทำให้ประเทศยากจนได้ประโยชน์มากขึ้นจนกระทั่งจะมีการกระจายของผู้อาศัย 2 คนในประเทศยากจนกับอีก 8 คนในประเทศมั่งคั่ง ผลประโยชน์ที่ได้รับของแต่ละคนได้รับเท่ากัน และไม่มีการย้ายถิ่นฐานเพราะความยากจนอีก โดยทฤษฎีสมดุลแบบแนชนั้น ยังไม่มีคนไหนที่ได้รับประโยชน์จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป หากพฤติกรรมของอีกฝ่ายยังคงเหมือนเดิม พวกเขาก็ได้รับการบรรลุผล แม้จะมีการชะลอการบล็อกที่สำเร็จแค่ไหนก็ตาม
ในเกมนั้น มีเพียงแค่ผู้เล่นประเทศยากจนเท่านั้นที่ประสบปัญหากับสภาพอากาศ คิดอยู่ที่ 10 หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์ที่ออกมานี้ทำให้เกิดความล้มเหลวในการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ 3 รอบติดต่อกัน เมื่อได้มีการแจ้งถึงสภาพอากาศ จำนวนผู้ย้ายถิ่นฐานเพิ่มมากขึ้นมากกว่าผู้ย้ายถิ่นฐานเพราะความยากจนจริง ๆ ผู้เล่นประเทศมั่งคั่งพยายามที่จะบล็อกผู้ย้ายถิ่นฐาน ระหว่างที่เจอกับสภาพอากาศที่เลวร้าย ความพยายามที่จะป้องกันสภาพอากาศลดน้อยลง ในขณะที่คนรวยได้ประโยชน์มากขึ้นโดยไม่มีความจำเป็นที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง
เป้าหมายที่มองข้ามไป
กลุ่มส่วนใหญ่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเรื่องสภาพอากาศและขาดทุนเป็นจำนวนมาก แม้ว่าคนรวยมีการสำรองการเงินที่ดีกว่าคนยากจน “คิดได้ว่า คนอื่นมีรายได้มากขึ้นในขณะที่คุณเก็บออม โดยมีบางคนที่เจอกับความเสี่ยงในการสูญเสียทุกอย่าง” กล่าวโดย Manfred Milinski
เป็นที่น่าแปลกใจที่คนรวยส่วนน้อยมีรายได้มากขึ้น ในขณะที่คนจนอย่างน้อยก็พยายามที่จะหารายได้จากการที่พวกเขาได้สูญเสียจากการป้องกันสภาพอากาศ ด้วยเหตุนี้จึงมีความเป็นไปได้ว่าทั่วโลกจะสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเพื่อชะลอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : Sciencedaily.com