ควันบุหรี่ที่พ่นออกมาจากปากสร้างความเสียหายต่อระบบความจำ

การค้นพบนี้ได้มีการตีพิมพ์ล่าสุดทางออนไลน์ในนิตยสาร Addiction ซึ่งเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ได้มีการสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่สูบบุหรี่กับปัญหาทางด้านความจำที่เกิดขึ้นทุกๆวัน

ทางด้าน Dr.Tom Heffernan กับ Dr.Terence O’Neil ทั้งสองเป็นนักวิจัย Collaboration for drug and Alcohol Research Group ในมหาวิทยาลัย Northumbria โดยงานวิจัยได้มีการเปรียบเทียบกลุ่มผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบันกับกลุ่มที่ไม่สูบบุหรี่ที่มักจะสูดควันบุหรี่จากผู้สูบกับกลุ่มที่ไม่ได้สูดควันบุหรี่

มีการสำรวจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของควันบุหรี่ที่ออกจากปาก ทั้งเรื่องของใช้ชีวิตอยู่กับผู้สูบหรือใช้เวลาอยู่กับผู้สูบ อย่างเช่น“พื้นที่สูบบุหรี่” และมีการรายงานว่าการปล่อยควันบุหรี่ที่ออกจากปากนั้นโดยเฉลี่ยแล้วมีอยู่ประมาณ 25 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ต่อ 4 เดือนกับครึ่งปี

ทั้ง 3 กลุ่มได้มีการทดสอบในส่วนของระบบความจำ (ความจำเกี่ยวกับการทำกิจกรรมหลังจากที่ผ่านพ้นไปแล้ว) และทดสอบความจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ (ซึ่งอ้างอิงถึงความจำในเป้าหมายที่จะลงมือทำในอนาคตกับกิจกรรมต่างๆ)

นักวิจัยพบว่า คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่แล้วสูดควันที่ออกจากปากผู้สูบนั้นมีอาการหลงลืมถึง 20 % จากการทดสอบความจำมากกว่าคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่แล้วไม่ได้สูดควัน อย่างไรก็ตามทั้งสองกลุ่มที่สูบบุหรี่มีอาการหลงลืมถึง 30 % มากกว่าคนที่ไม่ได้สูดควันที่ออกมาจากปาก

Dr.Heffernan ได้กล่าวว่า “สอดคล้องกับรายงานของ WHO ที่มีการเปิดเผยว่า ควันบุหรี่ที่ออกจากปากส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้คนแม้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นคนสูบ แต่เรื่องนี้สามารถอธิบายได้ถึงคนที่สูบยาสูบด้วยเช่นกัน

“การค้นพบของเราชี้ให้เห็นว่า ยังมีรายละเอียดไม่มากเกี่ยวกับการอธิบายถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในแต่ละวันจากการสูดควันบุหรี่ที่ออกจากปากต่อกระบวนการทางด้านการรับรู้ พวกเราหวังว่างานของพวกเราจะช่วยกระตุ้นยกระดับงานวิจัยมากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างควันที่ออกจากปาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาทางด้านสุขภาพกับกระบวนการรับรู้ในชีวิตประจำวัน”

ผู้แปล : Mr.lawrence10

ที่มา : sciencedaily.com