คุณเชื่อในตัวนักการเมืองหรือไม่? ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้คำนิยามเกี่ยวกับความจริงใจของนักการเมืองยังไง คุณเชื่อในตัวนักการเมืองหรือไม่? ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้คำนิยามเกี่ยวกับความจริงใจของนักการเมืองยังไง
เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่นักวิทยาศาสตร์การเมืองได้ทำการประเมินความจริงใจเจ้าหน้าที่รัฐที่มีต่อประชาชนอย่างสม่ำเสมอ โดยประเมินได้ว่า ความจริงใจยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ปี 1960 แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายกว่า 50 ปีในประเทศอเมริกา
งานวิจัยใหม่ได้มีการตีพิมพ์ใน PLOS ONE โดยมีการประเมินคำนิยามเกี่ยวกับความจริงใจ ความหมาย คำนิยามเกี่ยวกับความจริงใจนั้นเป็นการกระทำการหรืออย่างใดอย่างหนึ่งด้วยความสมัครใจ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาชี้ให้เห็นว่า จากการประเมินทั้งสามตัวอย่างนี้นำไปสู่ความไว้วางใจต่อรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการดำเนินงาน การดูแลเอาใจใส่ประชาชนและการทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“พวกเราต้องการตั้งคำถามนอกเหนือจากนั้นก็คือ ‘คุณเชื่อในรัฐบาลหรือไม่?’ ไปจนถึงทำการค้นหาความหมายของความคิดนั้นๆ งานวิจัยของพวกเราได้นำเสนอไอเดียทางความคิดใหม่เกี่ยวกับความจริงใจทางการเมืองและข้อเสนอคำแนะนำที่ว่า จะทำการขัดเกลาความเชื่อที่ได้รับจากอดีตที่ผ่านมาได้อย่างไร” กล่าวโดย Joe Hamm ซึ่งเป็นผู้ช่วยอาจารย์ทางด้านกระบวนการยุติธรรมทางอาญาและเป็นหัวหน้าวิจัยนี้ “การประเมินความจริงใจก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ ‘ความสุข’ ของประชาชนกับ ‘ความจริงใจ’ ในรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงไปมา ซึ่งบางครั้งพวกเราต้องทำการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเราในการทำความเข้าใจและมาวิเคราะห์ โดยเฉพาะเรื่องการปรับเปลี่ยนความจริงใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้
โดย Hamm ได้ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ทางการเมือง โดยทำการค้นหาผู้เข้าร่วมโดยทำแบบสำรวจทางออนไลน์เกี่ยวกับทัศนคติของพวกเขาเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยผู้เข้าร่วมได้รับการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่เป็นบวกต่อรัฐบาลไปจนถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ และประเมินว่าพวกเขามีความเชื่อในตัวรัฐบาลในฐานะที่เป็นตัวแทนของพวกเขายังไงบ้าง
“จากนั้นพวกเราได้ทำการจัดลำดับคำถามโดยทำการประเมินความสามารถของรัฐบาล การดูแลเอาใจใส่และความซื่อสัตย์” Hamm กล่าว “ไม่เหมือนการสอบถามเรื่องความจริงใจที่เคยใช้เมื่อ 10 ปีก่อน โดยคำถามของพวกเราจะโฟกัสไปที่คุณลักษณะของรัฐบาลและมาดูว่าคุณลักษณะต่างๆเหล่านี้มีผลต่อการใช้อำนาจของรัฐบาลที่มีต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างไร”
คำถามต่างๆเหล่านี้ช่วยให้เข้าใจอะไรได้ดียยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประเด็นใหญ่ๆเช่น เศรษฐกิจและเรื่องอื้อฉาวทางการเมืองที่อาจมีผลต่อความเชื่อใจ Hamm กล่าว
ข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจนั้น ได้รับการสนับสนุนโดยนักวิจัยเป็นวงกว้าง ทั้งเรื่องของการประเมินความเชื่อใจก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มีความแม่นนยำ ทั้งบริบทกับเนื้อหาที่แตกต่างในสาระสำคัญ
“พวกเราสามารถคิดให้ดียิ่งขึ้นเกี่ยวกับธรรมชาติของความจริงใจในทางจิตวิทยา” Hamm กล่าว
งานวิจัยในปัจจุบันยังคงมองหาดูรากฐานที่ว่า จะมีการขัดเกลาความคิดทางการเมืองยังไง ทั้งกับผู้สำรวจประชามติกับการรณรงค์ประเมินความเชื่อใจ Hamm กล่าว และอาจพิสูจน์ให้เห็นถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“พวกเราไม่ควรถามว่า เชื่อใจในตัวการเมืองหรือไม่ การที่คุณจะเชื่อมั่นในตัวเขาหรือเธอนั้น จะต้องยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น” Hamm กล่าว “หากคุณมาดูแคนนิเดตประธานาธิบดีในช่วงการเลือกตั้งปี 2020 นี้ จะเห็นได้ถึงความแตกต่างในเรื่องขององค์ประกอบทางความเชื่อเกี่ยวกับความจริงใจ”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com