จะรู้ได้อย่างไรว่า อีกฝ่ายเป็นคู่ชีวิตที่แท้จริง จะรู้ได้อย่างไรว่า อีกฝ่ายเป็นคู่ชีวิตที่แท้จริง
งานวิจัยได้มีการใช้ทฤษฎีเกมเพื่อมาวิเคราะห์ว่า ผู้ชายกับผู้หญิงมีกลยุทธ์ในการเล่นเกมเกี้ยวพาราสีกันอย่างไร โดยมีการใช้โมเดลคณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์ผู้ชายกับผู้หญิงที่ได้มีการเกี้ยวพาราสีกันในแต่ละครั้ง พร้อมกับดูว่าฉากจบของเกมว่า ใครเป็นฝ่ายเดินออกจากเกมหรือฝ่ายหญิงยอมรับผู้ชายคนไหนมาเป็นคู่ชีวิต
โมเดลได้ชี้ว่า ฝ่ายชายในมุมมองของผู้หญิงนั้นมีทั้ง “ดี” หรือ “แย่” ซึ่งสอดคล้องกับเงื่อนไขของฝ่ายชายหรือการยินยอมว่า จะมีการดูแลกันและกันหลังจากที่ตกลงปลงใจกันแล้ว
ส่วนฝ่ายหญิงมีมุมมองไปในทางด้านบวกเรื่องคู่ชีวิตหากฝ่ายชายเป็นผู้ชาย “ที่ดี” แต่จะมีมุมมองในด้านลบหากฝ่ายชายเป็นผู้ชาย “ที่แย่” ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงจะให้ความสนใจในผู้ชายที่ดีพร้อมกับหลีกเลี่ยงการอยู่ร่วมกันกับผู้ชาย “ที่แย่”
ในทางกลับกันผู้ชายมีมุมมองในด้านบวกกับผู้หญิงทุก ๆ คนที่ได้เข้ามาเป็นคู่ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย “ที่ดี” หรือ “แย่” ก็ตาม
งานวิจัยได้มองถึงวิวัฒนาการการสร้างพฤติกรรมต่าง ๆ ให้เกิดดุลยภาพขึ้นมา ซึ่งผู้หญิงหลายคนจะทำพฤติกรรมหลายอย่างที่ตรงข้ามกับพฤติกรรมของผู้ชาย และผู้ชายหลายคนก็ทำพฤติกรรมหลายอย่างที่ตรงข้ามกับผู้หญิง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการเกี้ยวพาราสีกับผู้ชายที่ดีจะมีการยืดเวลาออกไปนานกว่าผู้ชายที่แย่ และทำให้ผู้หญิงสามารถยืดเวลาการสร้างความสัมพันธ์ต่อไปได้
ในช่วงนี้ฝ่ายชายพยายามเกี้ยวพาราสีด้วยการใช้ความเป็นตัวตนของเขาเอง ในการยืดเวลาสร้างความสัมพันธ์นั้น ฝ่ายหญิงสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากข้อมูลตรงนี้ในการคัดเลือกผู้ชาย เนื่องจากผู้ชายที่แย่หลายคนมักมีแนวโน้มที่จะออกจากเกมเกี้ยวพาราสีเร็วกว่าคนอื่น เกมยังคงดำเนินต่อไป และฝ่ายชายจะไม่มีทางออกจากเกมหากผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชาย “ที่ดี”
อาจารย์ Robert Seymour จากมหาวิทยาลัย UCL คณะคณิตศาสตร์ได้กล่าวว่า “การเกี้ยวพาราสีในหมู่ของสัตว์แต่ละชนิดจะเกิดขึ้นเมื่อมีการยืดเวลาสร้างความสัมพันธ์ ตัวอย่างเช่น การเกี้ยวพาราสีในมนุษย์ด้วยกันมีความเชื่อมโยงกับการกินข้าวเย็น การดูหนังและทำกิจกรรมนอกบ้านในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาหรือแม้แต่ในทุก ๆ ปี ผู้ชายหลายคนอาจมีการจ่ายเงินให้ตามต้นทุนทางการเงินที่เขามี แต่ทั้งสองฝ่ายจะมีเรื่องของต้นทุนเวลาที่จะต้องทำการจัดสรรเวลาทำกิจกรรมให้ลงตัว แล้วทำไมไม่มีคนไหนหรือสัตว์ชนิดไหนทำการลดต้นทุนต่างๆพวกนี้บ้างล่ะครับ? คำตอบก็ดูเหมือนว่า การยืดเวลาเกี้ยวพาราสีออกไปเป็นแนวทางของผู้หญิงที่ใช้ในการวิเคราะห์ผู้ชายให้นานมากขึ้น
“ในการชะลอความสัมพันธ์นั้น จะช่วยให้ผู้หญิงลดโอกาสในการอยู่กับคู่ชีวิตกับผู้ชายที่แย่ได้ ผู้ชายที่มีความเต็มใจที่จะเกี้ยวพาราสีนานนั้น ก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า เขามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้ชายที่ดี การเกี้ยวพาราสีอย่างยาวนานมีโอกาสที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นคู่ชีวิตระหว่างกันได้ หากว่าเกิดขึ้นจริง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ประโยชน์จากเกมนี้ ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องที่แนะนำสำหรับคุณผู้หญิงได้ว่า ไม่ควรที่จะหลับนอนกับผู้ชายในเดทแรก”
Dr.Peter Sozou จากโรงเรียนการแพทย์ Warwick กับสถาบัน LSE สาขาปรัชญาธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์สังคมได้กล่าวว่า “มุมมองของผู้หญิงคิดว่า ผู้ชายทุก ๆ คนไม่มีความเท่าเทียมกัน ผู้หญิงต้องการหาคู่ชีวิตที่เป็นผู้ชายดีมากกว่า แต่ไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ชายแบบไหนที่ดีในมุมมองของเธอ ปัญหากลยุทธ์ในการเล่นเกมสำหรับผู้หญิงที่มีต่อผู้ชายก็คือ จะทำการสแกนผู้ชายที่แย่ได้อย่างไร และเมื่อมีการยืดเวลาเล่นเกมเกี้ยวพาราสีกันนานมากขึ้น ฝ่ายชายมักจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้คือคู่ชีวิตของเขา แต่ผู้ชายที่ดีหวังที่จะให้มีการเดินเกมเกี้ยวพาราสีนานมากขึ้นเพื่อที่จะได้รับรางวัลในการเป็นคู่ชีวิตของอีกฝ่าย ทำให้ฝ่ายหญิงไม่อยากคาดหวังที่จะได้คู่ชีวิตเร็ว แต่ฝ่ายชายก็เป็นฝ่ายที่จะต้องรอคอยกับความคลุมเครือไม่แน่นอนของฝ่ายหญิงก่อนที่เธอจะตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกับเขา ในช่วงเวลานี้ฝ่ายชายอาจเป็นฝ่ายยอมแพ้ในการเล่นเกมเกี้ยวพาราสีกับผู้หญิงก็ได้
“ผู้ชายที่แย่หลายคนจะยอมแพ้ในช่วงเวลาไหนก็ได้หากฝ่ายหญิงไม่แสดงออกให้เห็นว่า ต้องการผู้ชายคนนั้นมาเป็นคู่ชีวิต แต่ผู้ชายที่ดีมีความอดทนมากกว่าและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ กลยุทธ์การเล่นเกมของฝ่ายหญิงจะเน้นในเรื่องการประนีประนอมกัน โดยมีการแลกเปลี่ยนรางวัลตอบแทนระหว่างความเสี่ยงในการใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายที่แย่หากเธอตัดสินใจเขาคนนั้นเร็วเกินไปและชะลอการสร้างความสัมพันธ์ในทางกลับกัน ภายใต้การประนีประนอมกันนี้ทำให้ความเสี่ยงของผู้หญิงลดน้อยลงจากการที่เธอเลือกชีวิตคู่ผิดคน แต่เธอไม่สามารถกำจัดความเสี่ยงนี้ออกไปได้ทั้งหมด เว้นแต่เธอตัดสินแล้วว่า จะไม่เอาคู่ชีวิตคนไหนเลย”
ที่มา : sciencedaily.com