จากการวิจัยพบว่า ประเทศจะมีคอรัปชั่นน้อยก็ต่อเมื่อมีผู้หญิงเข้ามาทำงานกับรัฐบาลมากขึ้น จากการวิจัยพบว่า ประเทศจะมีคอรัปชั่นน้อยก็ต่อเมื่อมีผู้หญิงเข้ามาทำงานกับรัฐบาลมากขึ้น
ในการวิเคราะห์ประเทศมากกว่า 125 ประเทศนั้น งานวิจัยนี้พบว่าการคอรัปชั่นในประเทศต่างๆมีน้อยหากว่ามีสัดส่วนสมาชิกรัฐสภาที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น งานวิจัยนี้ยังพบอีกด้วยว่า ผู้แทนผู้หญิงที่อยู่ในการเมืองท้องถิ่นนั้น มีความสำคัญเช่นกัน มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการให้สินบนในพื้นที่นั้นๆน้อยลงหากเป็นผู้แทนผู้หญิงในการเมืองท้องถิ่นในยุโรป
“งานวิจัยนี้ได้ให้ความสำคัญกับอำนาจของผู้หญิง ทั้งบทบาทในความเป็นผู้นำและการเป็นผู้แทนในรัฐบาล” กล่าวโดย Sarangi ซึ่งเป็นอาจารย์ทางด้านเศรษฐศาสตร์และเป็นหัวหน้าแผนก Virginia Tech “โดยเฉพาะสิ่งสำคัญในความจริงที่ว่า ผู้หญิงหลายคนยังคงอยู่ภายใต้อำนาจทางการเมืองในประเทศส่วนใหญ่ รวมไปถึงประเทศอเมริกาด้วย”
โดยสมาชิกวุฒิสภาในประเทศอเมริกาน้อยกว่าครึ่งนึงนั้นเป็นผู้หญิง และมีเพียง 19 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงที่เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎร ซึ่งชี้ให้เห็นว่าประเทศอเมริกาไม่อยากให้ผู้หญิงเป็นผู้นำหรือเป็นประธานาธิบดี
ผู้เขียนมองว่า ผู้ร่างนโยบายที่เป็นผู้หญิงนั้น สร้างผลกระทบต่อวงการคอรัปชั่นได้ เนื่องจากพวกเธอเลือกร่างนโยบายที่แตกต่างไปจากผู้ชาย โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่า นักการเมืองผู้หญิงเลือกนโยบายที่มีความเชื่อมโยงกับสวัสดิการสำหรับผู้หญิง เด็กเล็กและครอบครัวมากกว่า
ความสัมพันธ์ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยควบคุมตัวแปรทางด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและปัจจัยทางด้านสถาบัน เช่นกันงานวิจัยได้ใช้เทคนิคทางด้านสถิติหรือการวิเคราะห์ตัวแปร ไปจนถึงทำการประเมินปัจจัยต่างๆและดูความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล หลังจากนั้นก็มีความเป็นไปได้ว่า การคอรัปชั่นนั้นจะต้องให้ผู้หญิงเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองและก็ไม่มีทางอื่น!
ผู้เขียนยังคงมองว่า การคอรัปชั่นมีความสัมพันธ์ในเรื่องของเพศตามที่มีงานวิจัยออกมาก่อนหน้านี้ โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ได้ให้ความสำคัญระหว่างการเป็นผู้แทนราษฎรของผู้หญิงในรัฐบาลกับการคอรัปชั่นที่ไม่ชี้ให้เห็นถึงต้นสายปลายเหตุแต่อย่างใด
งานวิจัยของ Jha กับ Sarangi เป็นงานวิจัยเชิงเปรียบเทียบในส่วนนี้และดูบทบาทของผู้หญิงในอาชีพการงานอื่นๆ รวมไปถึงแรงงานผู้หญิง งานเสมียนและอาชีพที่ใช้การตัดสินใจเช่น CEO และผู้จัดการ โดยงานวิจัยพบว่าบทบาทของผู้หญิงที่ทำอาชีพต่างๆเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนเชื่อมโยงกับการคอรัปชั่น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าบทบาทการร่างนโยบายสำหรับผู้หญิงนั้น ส่งผลกระทบต่อการคอรัปชั่น
บางครั้งเชื่อได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเพศกับการคอรัปชั่นนั้นอาจหมดลงไปโดยที่ผู้หญิงได้ยกระดับสถานะทางสังคมของเธอขึ้นมา ซึ่งเป็นไปได้เพราะสถานะของผู้หญิงถูกยกระดับมากขึ้น พวกเธอสามารถเข้าถึงเครือข่ายการคอรัปชั่นและในช่วงเวลาด้วยกันพวกเธอได้เรียนรู้ว่า วงการคอรัปชั่นมีการเคลื่อนไหวกันอย่างไร อย่างไรก็ดีผลลัพธ์ที่ออกมาชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างผู้แทนราษฎรผู้หญิงในรัฐสภาพกับการคอรัปชั่นนั้นยังคงเหนียวแน่นหากว่าผู้หญิงมีความสุขกับอำนาจวาสนาที่มีอยู่ โดยงานวิจัยนี้ก็ได้อธิบายว่า การร่างนโยบายโดยผู้หญิงนั้นมีผลต่อการคอรัปชั่น
โดยงานวิจัยของ Jha กับ Sarangi นั้นได้เตือนว่า ผลลัพธ์ต่างๆเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า ผู้หญิงจะช่วยให้การคอรัปชั่นน้อยลง ความจริงแล้วยังมีการอธิบายอื่นๆนอกเหนือจากนั้น หากว่าผู้หญิงทำให้การคอรัปชั่นน้อยลงจริง ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะต้องมาประเมินการมีส่วนร่วมของผู้หญิงกับการคอรัปชั่น
นโยบายที่งานวิจัยได้หยิบยกมานี้เป็นเรื่องของการส่งเสริมความเท่าเทียมกันและส่งเสริมให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ก็ได้ประเมินพฤติกรมของผู้หญิงในรัฐบาลในการส่งเสริมการศึกษาที่ดีขึ้นและสุขภาพที่ดีกว่า
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com