วีดีโอเกมที่มีเนื้อหากราฟฟิครุนแรงนั้น ผู้เล่นอาจมองเห็นโลกของเกมในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป วีดีโอเกมที่มีเนื้อหากราฟฟิครุนแรงนั้น ผู้เล่นอาจมองเห็นโลกของเกมในมุมมองที่แตกต่างกันออกไป
นักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า ผู้เล่นจะไม่ได้สนใจเนื้อหากราฟฟิคที่รุนแรงจากการที่รับรู้ภาพแต่ละฉากที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าใจได้ว่า พวกเขามีเป้าหมายการเล่นเกมอะไรมากกว่าคนที่ไม่เคยเล่น ในขณะที่งานวิจัยไม่ได้พิสูจน์ว่า ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะการเล่นเกมที่ผ่านๆมาของพวกเขาหรือเปล่า จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำการวิจัยถึงความแตกต่างในการรับรู้ภาพที่มีเนื้อหารุนแรงที่อาจมีความเชื่อมโยงกับทัศนคติที่แตกต่างกันออกไป
ภาวะอารมณ์ที่หลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริงจะเกิดขึ้นเมื่อคนนั้นใช้อารมณ์ในการรับรู้มุมมองโลกที่เกิดขึ้น
“ตัวอย่างเช่นเมื่อผู้คนได้ทำการวิเคราะห์ภาพเป้าหมาย พวกก็ทำการแยกแยะอารมณ์ออกมา ซึ่งบางครั้งก็ไม่ทำให้พวกเขาสามารถรับรู้ภาพเป้าหมายนั้นๆได้” Dr.Most กล่าว
“สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหากคุณมองภาพเป้าหมายที่ถูกต้อง เหมือนกับว่ากระบวนการรับภาพจะหยุดทำงานลงจนทำให้เกิดการรับรู้ภาพด้วยอารมณ์ที่คุณกำลังเผชิญอยู่”
งานวิจัยได้ทำการแยกแยะผู้เข้าร่วมที่เล่นเกมเนื้อหาภาพที่รุนแรงมากกว่า 5 ชั่วโมงในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งเป็นเกมที่บ่อยครั้งมักจะมีภาพรุนแรงตลอดเวลา ส่วนอีกกลุ่มเป็นคนที่ไม่ได้เล่นวีดีโอเกมเมื่อเทียบกับผู้เล่นที่เล่นเกมรุนแรง โดยผู้เข้าร่วมไม่ได้ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างการทดลองกับการเล่นเกมในอดีตที่ผ่านมา
ภาพที่ปรากฎขึ้นมาจะเป็นภาพทิวทัศน์แต่ละภาพ โดยเกือบทุกๆภาพจะเป็นภาพเป้าหมาย โดยภาพทิวทัศน์จะมีการตั้งฉาก 90 องศาไม่ว่าจะเป็นทางซ้ายหรือขวา
เมื่อผู้เข้าร่วมได้รับชมภาพแล้ว ผู้เข้าร่วมได้รับการสอบถามเกี่ยวกับภาพว่า มีการตั้งฉากในแบบไหนบ้าง
บางภาพนั้นทำให้รู้สึกไขว้เขวเสียสมาธิ ซึ่งภาพนั้นก็มีประมาณ 200-400 ภาพก่อนที่จะมีการปรับเปลี่ยนการตั้งฉากภาพเป้าหมาย ภาวะการรับรู้ภาพที่ไขว้เขวเสียสมาธินี้เกิดจากการใช้อารมณ์อย่างเป็นกลาง (เป็นภาพที่ไม่มีการทารุณสัตว์หรือคน) หรือเป็นภาพที่มีเนื้อหารุนแรงกับเป็นภาพที่เป็นทางลบต่ออารมณ์ที่ชี้ให้เห็นถึงความรุนแรง (การจู่โจม) หรือภาพที่ขยะแขยง (เป็นภาพโถส้วม)
ผู้เล่นวีดีโอเกมที่มีภาพรุนแรงบ่อยครั้งดูเหมือนจะไม่ส่งผลต่อภาวะทางอารมณ์ของพวกเขามากนัก ภาพที่เต็มไปด้วยความรุนแรงหรือน่าเกลียดนั้น พวกเขาสามารถแยกแยะภาพแต่ละภาพที่มีเนื้อหาภาพรุนแรงได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
การรับรู้ภาพแบบกลางๆนั้น ไม่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างมานักในกลุ่มศึกษาวิจัยนี้ นี่เป็นเรื่องสำคัญมากเนื่องจากช่วยให้เข้าใจความเป็นไปได้ที่ว่า ผู้เล่นเกมที่มีเนื้อหารุนแรงสามารถสรุปมุมมองภาพรวมแล้ว “งานวิจัยชี้ว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของผู้เล่น โดยผู้คนรับรู้มุมมองความรุนแรงไม่เหมือนกันและตัวเกมเองก็ให้การรับรู้สภาพแวดล้อมไม่เหมือนอีกเช่นกัน” กล่าวโดย Dr.Most
“พวกเราพบว่าเกมที่มีเนื้อหารุนแรงสูงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการรับรู้ทางอารมณ์ที่มีต่อภาพต่างๆ โดยผู้เล่นสามารถสร้างภูมิคุ้มกันในการรับภาพรุนแรงแบบนี้ได้”
“งานวิจัยนี้ชี้ว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างวีดีโอเกมที่มีเนื้อหาภาพรุนแรงกับทัศนคติของผู้คน จึงก่อให้เกิดกระบวนการรับรู้ข้อมูล สำคัญก็คือผลลัพธ์ที่ออกมานี้ก็ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุและผลระหว่างเกมที่มีความรุนแรงกับภาวะทางอารมณ์ที่หน้ามือตามัวหรือแม้แต่ศีลธรรมอันดีงาม กล่าวโดย Dr.Most “งานวิจัยของพวกเราโฟกัสไปที่ทัศนคติและดูว่ามีแรงกระตุ้นเป็นไปในทางลบมากแค่ไหน นี่ถือเป็นงานวิจัยที่แตกต่างจากชิ้นอื่นๆที่ว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างวีดีโอเกมที่รุนแรงกับพฤติกรรมทางสังคม อย่างเช่นความก้าวร้าว
“มีความขัดแย้งในงานเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า การเล่นวีดีโอที่มีเนื้อหารุนแรงส่งผลต่อพฤติกรรมที่แสดงออกมาในโลกแห่งความเป็นจริง งานวิจัยนี้เพียงแค่วิเคราะห์ในส่วนของทัศนคติของผู้คนและจะต้องทำงานวิจัยเกี่ยวกับกลไกการรับรู้ทางอารมณ์ที่มีต่อทัศนคติ”
ผู้แปล : Mr.lawrence10
ที่มา : sciencedaily.com